วันที่ 7 ธันวาคม 2563 ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา-พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตรวจติดตามการดำเนินงานการบริหารจัดการน้ำและการพัฒนาหนองเล็งทราย
อ.แม่ใจ จ.พะเยา และการพัฒนากว๊านพะเยาอย่างยั่งยืน ในโอกาสนี้รองนายกรัฐมนตรีได้เป็นประธาน
สักขีพยานในการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชนในลักษณะแปลงรวม โครงการ
จัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายของรัฐบาลในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าแม่ปืมและป่าแม่พุง” อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา และมอบหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชน 10 ป่า เนื้อที่กว่า 2 พันไร่ ให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐในการดูแลรักษาและบริหารจัดการป่าไม้ใกล้หมู่บ้าน ตลอดจนให้ชุมชนสามารถใช้ประโยชน์จากป่าได้ทั้งทางตรงและทางอ้อม ภายใต้ระเบียบและกฎหมายที่กำหนด
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังพิธีการมอบหนังสือแสดงโครงการ
ป่าชุมชน ว่ารัฐบาลได้เล็งเห็นความสำคัญในการรักษาพื้นที่ป่าที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์ โดยส่งเสริม
ให้ประชาชน องค์กรประชาชน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในรูปแบบของป่าชุมชน พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการตราพระราชบัญญัติป่าชุมชน พ.ศ. 2562 เพื่อเป็นกลไกให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมกับรัฐในการจัดการป่าของชุมชน และได้รับประโยชน์จากป่าโดยมีกฎหมายรองรับ ทั้งนี้เพื่อความมั่นคงทางสังคม ความมั่งคั่งทางเศรษฐกิจ และความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม เป็นการกระจายอำนาจการบริหารจัดการทรัพยากรท้องถิ่นสู่ระดับพื้นที่ ทำให้เกิดความคล่องตัวในการดำเนินงานด้านป่าชุมชนเป็นไปตามความเหมาะสม ตามศักยภาพของพื้นที่ได้อย่างสมดุลและยั่งยืน สำหรับในวันนี้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยกรมป่าไม้ ได้ออกหนังสือแสดงโครงการป่าชุมชนให้กับชุมชน อ.เมืองพะเยา และอ.แม่ใจ จ.พะเยา จำนวน 10 ป่า เนื้อที่รวม 2,693 ไร่
จากนั้นพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะได้เดินทางไปติดตาม ความคืบหน้า การสร้างฝายพับได้ การก่อสร้างอาคารบังคับน้ำ และการขุดลอกคลองรอบหนองเล็งทราย ตำบลศรีถ้อย อำเภอแม่ใจ จังหวัดพะเยา ซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 5,500 กว่าไร่ เพื่อเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ ไว้ใช้เพื่ออุปโภคและบริโภค สำหรับทั้งอำเภอแม่ใจและอำเภอเมืองจังหวัดพะเยาในอนาคต ซึ่งรัฐบาลได้อนุมัติงบประมาณ 215 ล้านบาท ในการ ก่อสร้างและดำเนินการ เมื่อต้นปีที่ผ่านมา
จากนั้นรองนายกรัฐมนตรีพร้อมคณะ ได้เดินทางต่อไปยังกว๊านพะเยา อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมของบประมาณกว่า 1,000 ล้านบาท ในการบริหารจัดการกว๊านพะเยา ทั้งการขุดลอก และขยายแก้มลิง เพื่อเพิ่มปริมาณการกักเก็บน้ำ และการบูรณะวัดติโลกอาราม ที่อยู่กลางกว๊านพะเยา ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในอนาคต ซึ่งเบื้องต้น รองนายกรัฐมนตรี ได้เตรียมผลักดันงบประมาณ 750 ล้านบาท ในการพัฒนากว๊านพะเยาต่อไป