สถานการณ์การของไวรัสโควิด -19 ในพื้นที่จังหวัดเชียงราย หลังจากที่ได้มีผู้ลักลอบข้ามแดนจาก ชายแดนด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย โดยเจ้าหน้าที่สามารถสกัดได้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดนายประจญ ปรัชญ์สกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ในฐานะประธานคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดเขียงราย ได้มีประกาศฉบับที่ 39 ให้บุคคลสัญชาติไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางจากประเทศเมียนมาให้กลับมาตามช่องทางปกติ ที่ด่านแดนถาวรที่สะพานข้ามลำน้ำสายแห่งที่ 2 เพื่อให้กลุ่มคนไทยที่อยู่ในพื้นที่ จ.ท่าขี้เหล็กประเทศเมียนมาที่จะลักลอบเข้ามาตามช่องทางตามธรรมชาติ ได้กลับเข้ามาอย่างถูกต้องเพื่อจะได้มีการคัดกรองโรค และเป็นการควบคุมโรคได้ เพราะช่วงที่เดินทางออกไปก็มีการลักลอบจึงเกรงว่าตัวเองจะมีความผิดหากเดินทางกลับมาตามช่องทางด่านพรมแดน โดยเจ้าหน้าที่ยืนยันว่าจะให้บริการเข้าสู่กระบวนการตามมตรการทางสาธารณสุขเพื่อความปลอดภัยของผู้ที่จะเดินทางเข้า และป้องกันการระบาดของโรคด้วย
ด้านสถานการณ์การพบผู้ติดเชื้อใน จ.เชียงราย ล่าสุดมีรายงานว่าอาจจะมีผู้ติดเชื้ออีกอย่างน้อย 1 ราย เป็นหญิงสาวที่ทำงานที่เดียวกับหญิงสาวที่ติดเชื้อที่ จ.เชียงใหม่ และอีก 2 รายที่ จ.เชียงราย ก่อนหน้านี้ โดยถูกเจ้าหน้าที่เข้าไปควบคุมตัวได้หลังจากลักลอบเข้ามาทางชายแดนไทย-เมียนมา ผ่านช่องทางธรรมชาติ โดยแพทย์ได้ทำการตรวจหาเชื้อด้วยปรากฎว่าพบผลบวกจำนวน 1 ราย
สำหรับ สถานการณ์การของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังระบาดในพื้นที่ชายแดน ไทย-เมียนมา ด้าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย แจ้งว่าสถานการณ์การระบาดของไวรัสใน จ.ท่าขี้เหล็ก ได้ทำให้ทั่วทั้งเมืองแทบไม่มีการเดินทางออกมาของประชาชนตั้งแต่ช่วงหัวค่ำเป็นต้นไป โดยทางเจ้าหน้าที่ท้องถื่นของเมียนมาได้เข้มงวดเรื่องการรวมกลุ่มกันของผู้คนตามร้านค้าแผงลอยต่างๆ หลังเวลา 18.00 น.เป็นต้นไปและให้สวมหน้ากากอนามัยอย่างหนัก ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อเมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่ผ่านมาพบว่าสูงถึง 34 ราย ส่งผลให้คนไทยจำนวนหนึ่งที่เคยทำงานอยู่ในสถานที่ต่างๆ พยายามจะเดินทางกลับประเทศไทย ขณะที่การลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ยังคงมีทะลักเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทางผบ.กองกำลังผาเมืองก็ได้ลงพื้นที่และได้สั่งการให้เพิ่มความเข้มงวดในการลาดตระเวณ และการวางสิ่งกีดขวาง เพื่อป้องกันการลักลอบข้ามพรมแดนอย่างผิดกฎหมาย โดยพบว่าในช่วง 7 วันที่ผ่านมามีการจับกุมผู้ลักลอบข้ามแดนได้เพียง 13 คน ด้านนายอำเภอแม่สายเตรียมหารือกับองค์กรปกครองท้องถิ่นทั้งหมดในพื้นที่อำเภอแม่สาย วางแผนระดมกำลังกันจัดกิจกรรมบิ๊กคลีนนิ่งสถานที่สำคัญๆ ในพื้นที่อำเภอแม่สายเ เพื่อเสริมสร้างความมั่นใจให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว