วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พระครูกัลยาโณภาส เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ หมู่ 1 ตำบลสว่างอารมณ์อำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยา ได้เก็บ รักษา เสื้อยันต์ โบราณ อายุ80ปี ที่ทางรัฐบาลไทยสร้างขึ้น เมื่อปีพ.ศ.2483 เพื่อมอบให้ทหาร-ตำรวจ สวมใส่ใช้ในการ ป้องกันตนเอง เพื่อเกิดความแคล้วคลาด จากศาสตราวุธต่างๆ ยิง ฟัน แทงไม่เข้า ในขณะปฏิบัติหน้าที่ ปกป้องผืนแผ่นดินไทย และเรียกร้องผืนแผ่นดินไทยคืน ตามแนวตะเข็บชายแดน เพื่อเป็นการปกป้อง อธิปไตยของประเทศไทยไว้ ไม่ให้ใครรุกรานและรุกล้ำ หลังจาก ที่ได้เสียดินแดนไป โดยมีเกจิอาจารย์ดังๆของประเทศไทยร่วมทำพิธีปลุกเสก พุทธคุณ เพิ่มความขลัง นำไปแจกจ่ายให้กับตำรวจ-ทหารนำไปใส่ไปปฏิบัติหน้าที่ ในยุคสมัยนั้นปัจจุบันนับว่าเป็นของที่หาดูยากและเป็นที่หวงแหนแก่ผู้ที่มีไว้ครอบครอง ซึ่งปัจจุบันมีเพียงผืนเดียวที่วัดสว่างอารมณ์อำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยา ยังมีให้เห็นอยู่
พระครูกัลยาโณภาส เจ้าอาวาสวัดสว่างอารมณ์ กล่าวว่า เมื่อหลายสิบปีก่อนได้มีโยมนำ เสื้อยันต์ เรียกร้องผืนแผ่นดินไทยคืน มาถวายให้และเก็บรักษาไว้ ต่อมาทางวัดสว่างอารมณ์ร่วมกับคณะศรัทธาสาธุชนในชุมชน ทั้งในและต่าง จังหวัดตลอดจนต่างประเทศ หารือกันว่าจะสร้างโฮงยันต์หรือ พิพิธภัณฑ์ผ้ายันต์ ขึ้นภายในวัดสว่างอารมณ์ และได้นำเอาผ้ายันต์ชนิดต่างๆ มันมาใส่กรอบ แขวนติดผนัง เพื่อให้ญาติโยม ตลอดจนผู้ที่สนใจเข้ามาศึกษาเที่ยวดูชม
สำหรับเสื้อยันต์ ที่มีการจัดทำขึ้นมา เมื่อปีพศ 2483 แจกจ่ายให้กับ เจ้าหน้าที่ตำรวจ-ทหาร เพื่อเรียกร้องผืนแผ่นดินไทยคืน โดยมีหลวงพ่อเกจิดังๆในยุค ก่อน อาทิ หลวงพ่อจง หลวงพ่อคง หลวงพ่ออี๋ และหลวงพ่อดังๆในยุคนั้นร่วมกันปลุกเสก พุทธคุณ เสื้อยันต์ เพื่อเรียกร้องผืนแผ่นดินไทยคืน เพื่อให้มีพุทธคุณ รวมอายุ ผ้ายันต์ 80 ปี เสื้อยันต์ เป็นรูปแบบคล้ายเสื้อกั๊กใช้สวมคลุมร่างกายเป็นผ้าขาวมีอักขระเลขยันต์ ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง เต็มไปหมด ได้นำมาใส่กรอบ ห้อยแขวนไว้ ภายในโฮงยันต์ และมีเพียง 1 ผืนเท่านั้น ที่เก็บไว้เป็นสมบัติของพระพุทธศาสนา ที่วัดสว่างอารมณ์ตำบลสว่างอารมณ์อำเภอดอกคำใต้จังหวัดพะเยา