พะเยา ชาวบ้านขอโชค ต้นตะเคียนตายแต่ไม่โค่น ล้ม เด่น กลางทุ่งนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้าน บ้านผาช้างมูบ ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ต่างพากันนำดอกไม้ธูปเทียน เข้าไป กราบไหว้ ต้นตะเคียน เก่าแก่โบราณ อายุกว่า100ปี ที่ยืนต้น ตาย อยู่กลางทุ่งนา บ้านผาช้างมูบ หมู่ 1 ตำบลสันป่าม่วงอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา ทั้งนี้เนื่องจาก ปีก่อนที่ผ่านมา ต้นตะเคียนต้นนี้ ยังมีชีวิตอยู่ แผ่กิ่งก้านสาขา ปกคลุมไปทั่วบริเวณ จนกระทั่งต่อมา ได้ถูกชาวนาทำการเผากองฟางข้าวแล้วลุกลามไหม้ ต้นตะเคียน จนยืนต้นตาย ตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน ต้นตะเคียนต้นนี้ ยังคงนืนต้นไม่ได้โค่นล้มแต่อย่างใด ชาวบ้านต่างเชื่อว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สิงสถิตอยู่ เพราะต้นตะเคียนตัวนี้เป็นต้นไม้ที่อยู่คู่กับหมู่บ้าน ผาช้างมูบ มาตั้งแต่โบราณ มีอายุกว่า 100 ปี ที่ผ่านมา ชาวบ้านมักจะเห็น ลูกแก้วส่องแสงสว่าง ลอยออกจากองค์พระธาตุวัดผาช้างมูบแล้ว ลอยมาลงที่ต้นตะเคียนต้นนี้ เป็นประจำทุกวันพระ หรือวันสำคัญของศาสนา และที่สำคัญต้นประจำตัวนี้เป็นที่เคารพ นับถือและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบ้านถึงทุกวันนี้ถึงแม้ว่าต้นตะเคียนทองจะตายแล้ว ก็ตาม แต่ก็ยังพบกับความแปลกถึงต้นตะเคียนถึงแม้ยืนต้นตายแล้วแต่ก็ยังมีต้นกาฝากมาอาศัย อยู่ปลายยอด มีลำต้น แตกกิ่งออกใบ อย่างน่าประหลาดใจ ชาวบ้านวอนถึง หน่วยงานในท้องถิ่น เข้ามาช่วยอนุรักษ์ไว้ ให้เป็นสัญลักษณ์ของหมู่บ้านและเป็นแหล่งท่องเที่ยวต่อไป
จากการสังเกตพบว่าต้นตะเคียนทองต้นนี้น่าจะมีอายุไม่ต่ำกว่า 100 ปีขนาดลำต้นประมาณ 10 คนโอบ สูงประมาณ 20 เมตร และพบว่าต้นตะเคียนได้ตายแล้ว หลังจากที่ได้ถูกชาวนาได้จุดไฟเผาฟางข้าวหลามลุกไหม้ต้นตะเคียนทองต้นนี้จนต้นตะเคียนยืนต้นตายมาปีกว่าจนถึงปัจจุบันต้นตะเคียนก็ยังคงยืนต้นอยู่กลางทุ่งนา ก่อนเข้าหมู่บ้าน ผาช้างมูบตำบลสันป่าม่วงอำเภอเมืองจังหวัดพะเยา หลังจากต้นตะเคียนตายก็ได้มีชาวบ้านนำเอาศาลเพียงตา มาตั้งวางไว้เพื่อให้ผู้คนทั่วไปได้เข้า มากราบไหว้ขอโชคขอลาภหรือนำเอาเครื่องเซ่นไหว้มาถวายเจ้าแม่ตะเคียนทอง ตามความเชื่อที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบัน ซึ่ง สามารถดลบันดาลให้โชคให้ลาภแก่ชาวบ้านและผู้คนที่เข้ามากราบไหว้อีกด้วย
แม่อุ้ย น้อย ชาวน่าน อายุ 78 ปี บ้านเลขที่ 71 หมู่ 1 บ้านผาช้างมูบ ตำบลสันป่าม่วง อำเภอเมืองจังหวัดพะเยา กล่าวว่าต้นตะเคียนทองต้นนี้เกิดมาก็เห็นแล้วว่ามีลำต้นสูงใหญ่ขนาดนี้ เมื่อก่อนต้นตะเคียนทองต้นนี้มีชีวิต ต่อมาหนึ่งปีที่ผ่านมาได้มีชาวนาทำการ เผาฟางข้าว ได้ไหม้ลุกลาม เผาต้นตะเคียน จนทำให้ยืนต้นตาย และที่น่าแปลกต้นตะเคียนต้นนี้หลังจาก ถูกไฟเผาตายแล้ว ก็ยัง คงยืนต้น โดยไม่โค่นล้มแต่อย่างใด ซึ่งต้นตะเคียนเป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน ช่วยปกปักรักษาคุ้มครอง ให้โชคให้ลาภ และยังมีความศักดิ์สิทธิ์เมื่อถึงวันพระจะมีลูกแก้วส่องแสงลอยจากพระธาตุวัดผาช้างมูบลอยมาตกลงที่ต้นตะเคียนทองต้นนี้เป็นประจำ ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าต้นตะเคียนทอง มีเจ้าแม่ตะเคียนทองสิงสถิตอยู่ ซึ่งชาวบ้านก็ให้ความเคารพนับถือจนถึงทุกวันนี้
สำหรับต้นตะเคียนทองต้นนี้ยืนต้นตายแต่ไม่ล้ม ซึ่งชาวบ้านก็ยังได้ห่วงว่าต่อไปเกรงว่าต้นตะเคียนทองต้นนี้จะโค่นล้มจึงขอฝากถึงหน่วยงานหรือผู้ที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลช่วยอนุรักษ์รักษาไว้เพื่อไม่ให้ต้นตะเคียนต้นนี้ล้มลงเพื่อให้เป็นสัญลักษณ์เอกลักษณ์ของหมู่บ้านผาช้างมูบและให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว ของหมู่บ้านอีกด้วยเพราะปัจจุบันจะหาต้นตะเคียนทองที่ต้นใหญ่ๆขนาดนี้แทบจะไม่มีให้เห็นจึงอยากจะอนุรักษ์ไว้ให้คนรุ่นหลังได้ดูชมต่อไป