ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปดูฝูงผึ้ งหลวงที่พากันบินมาทำรังใต้ คางพระพุทธรูปเชียงแสน สิงห์หนึ่ง ปางมารวิชัย ศิลปะล้านนาองค์ใหญ่ หรือหลวงพ่อใหญ่ อย่างน่าอัศจรรย์ ภายในสำนักสงฆ์วัดป่าห้วยบง ตำบลแม่ปืม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา จนเป็นที่ฮือฮาและแปลก ทั้งๆที่ องค์พระพุทธรูป ตั้ง ประดิษฐานอยู่กลางแจ้ง แดดแผดเผาร้อน ตลอดทั้งวัน แต่ฝูงผึ้งกลับ ยึดไว้เป็นที่ทำรังอยู่อาศั ยตลอดปีโดยจะหมุนเวียนสลับฝู งเข้ามาเกาะทำรังทั่วบริเวณองค์ พระพุทธรูป โดยไม่หนีไปไหน และที่สำคัญฝูงผึ้งหลวงจะไม่ ทำร้าย หรือต่อยผู้ใด ที่อยู่ในบริเวณวัด ซึ่งชาวบ้านเชื่อว่าเป็ นเพราะบารมีของหลวงพ่อใหญ่ ที่มีความศักดิ์สิทธิ์ ช่วยปกปักรักษาคุ้มภัยให้แก่ฝู งผึ้งหลวง ที่ได้มาอยู่อาศัยด้วย
สำหรับพระพุทธรูปดังกล่าว เป็นพระพุทธรูป เชียงแสน สิงห์หนึ่ง ปาง มารวิชัย ศิลปะ ล้านนา รูปลักษณะขนาดใหญ่ หน้าตักกว้าง 18 เมตร สูง 17 เมตร ประดิษฐานโดดเด่นสง่างามอยู่ บนแท่นภายในสำนักสงฆ์วัดป่าห้ วยบง โดยมีฝูงผึ้งหลวงมาทำรั งขนาดใหญ่ขนาดตั้งแต่50เซนติ เมตรจนถึง1เมตร เกาะติดไปทั่วบริเวณองค์พระ พุทธรูป โดยผึ้งจะ ทำรังเกาะติด บริเวณใต้คางพระพุทธรูปจนมองดู เหมือนเคราขนาดใหญ่ห้อยอยู่ หลายรัง ทำรังใต้รักแร้ ใต้แขน ตลอดจนองค์พระ พุทธรูป ซึ่งฝูงผึ้งจะ ทำรัง อยู่ทีนี่มาเป็นเวลาหลายปี จนเป็นที่อัศจรรย์ใจของชาวบ้ านที่มาทำบุญที่วัดและได้พบเห็น
พระครูใบฎีกาอธิชัย คุณวุฒ เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์วัดป่าห้วยบง ตำบล แม่ปืม อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา เปิดเผยว่า หลังจากที่ได้สร้างองค์พระพุ ทธรูปสิงห์หนึ่ง ศิลปะเชียงแสน ล้านนา หรือหลวงพ่อใหญ่ ขึ้นมาเมื่อประมาณ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งในขณะที่กำลังก่อสร้าง ก็ได้มีฝูงผึ้งหลวง พากันบินเข้ามา เกาะทำรังทั่วองค์ หลวงพ่อใหญ่ โดยจะมาทำรังอยู่ที่ใต้คาง และทั่วองค์หลวงพ่อใหญ่ มานานโดยฝูงผึ้งหลวงบินมาเหมื อนเสียงเครื่องบินวนรอบองค์ พระพุทธรูปและรวมตัวกันเกาะใต้ คางพระพุทธรูปสิงห์ 1 ซึ่งเป็นที่อัศจรรย์อย่างยิ่ง โดยมีเหล่าฝูงผึ้งหลวง พากันมาเกาะ ทำรัง ทั่วองค์พระพุทธ โดยรังผึ้งได้ยึดใต้คาง ใต้รักแร้ และใต้ศอก ทำรัง โดยแต่ละรัง มีความยาวกว้าง 1.1 เมตร จนถึง 2 เมตร โดยไม่ทำร้ายใคร ที่มากราบไหว้หลวงพ่อและพระที่ อยู่ภายในวัด ซึ่งฝูงผึ้งหลวงจะย้ายออกในวั นงานบุญของวัดช่วงเดือน มกราคม ของทุกปี เป็นวันที่เปลี่ยนผ้าสไบห่มองค์ พระ (สไบทิพย์) แล้วกลับมาใหม่อีกหลังจากเสร็ จวันพิธีงานบุญ จะไม่หนีไปไหน ทั้งที่องค์พระตั้งอยู่กลางแจ้ งโดนทั้งแดด ลม และฝน ทำให้ชาวบ้านที่ผ่านไปมา รวมทั้งนักท่องเที่ยว ต่างเห็นเป็นเรื่องมหัศจรรย์ ซึ่งอาตมา เห็นว่าเป็นธรรมดาของสัตว์โลกที่ เห็นว่าอยู่ตรงไหนสงบร่มเย็น ปลอดภัย ก็เข้ามาอยู่อาศัย ไม่ใช่เรื่องปาฏิหาริย์แต่อย่ างใด นอกจากนั้น ยังมีชาวบ้านจำนวนมากมาขอโชคลาภ ซึ่งเป็นธรรมดา เป็นความเชื่อของแต่ละบุคคล ไม่สามารถห้ามได้
Prev Post